ศาสดาของศาสนาต่างๆ
ศาสนาพุทธ
เจ้าชายชาวอินเดีย
ทรงพระนามว่าเจ้าชายสิทธัตถะ
(ต่อมาเป็นที่รู้จักของผู้คนว่าพระพุทธเจ้า)พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 500 ปีก่อน สมัยของพระเยซู
พระองค์ทรงเห็นว่าผู้คนต้องทุกข์ยากจากความชราและความเจ็บป่วย
เจ้าชายสิทธัตถะจึงทรงสละราชสมบัติ และทรงธุดงค์ไปิ ตามชนบท
เพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง และอะไรคือ "สัจจธรรม"
เมื่อทรงตรัสรู้แล้วก็ได้สอบสิ่งที่พระองค์ทรงเรียนรู้นั้นแก้ผู้อื่น
ชาวพุทธกล่าวว่าคนที่จะเป็นพุทธมามกะได้นั้น
จะต้องโตพอที่จะรู้ว่าการเป็นคนพุทธนั้นมีความหมายอย่างไร
ศาสนาอิสลาม
ชาวมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลามนั้น
ศาสดาสำคัญที่สุดของ พวกเขาก็คือ นบีมหะหมัด หรือ พระมหะหมัด ท่านมีอาชีพเป็นพ่อค้าในเมืองเมกกะ
เมื่อท่านต้องการเข้าใกล้พระเจ้า ท่านจะขึ้นไป บนภูเขาหิราทางทิศเหนือ
และจะเข้าไปในถ้ำที่อยู่บนภูเขาสูงนี้เพราะท่านจะสามารถอยู่ตามลำพังและ
ใช้ความคิดได้ คืนหนึ่งขณะที่ท่านอยู่ในถ่ำนั้น ท่านได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง
เมื่อเงยหน้าขึ้นก้เห็นทุตสวรรค์ปรากฏอยู่ข้างหน้าท่านทูตองค์นั้นได้นำข่าวดี
ีมาให้ท่านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทูตสวรรค์ก็ปรากฏแก่ท่านบ่อยครั้งเพื่อนำข่าวดีมาให้ซึ่งท่านจะต้องบอกกล่าวแก่ประชาชนในเมกะต่อไปแล้ว
นบีมหะหมัด ก็สอนสิ่งที่ทูตสวรรค์บอกกล่าวแก่ท่านนั้นแก่ประชาชนทั้งหลายท่านสอนว่ามีพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้นพระองค์ทรงพระนามว่า
พระเจ้า(หรือในภาษาอารบิคอ่านว่า "อัลเลาะห์")
เมื่อชาวมุสลิมเรียกนามของพระมหะหมัด พวกเขามักจะพ่วงท้ายด้วยคำอวยพรว่า.....
"ขอสันติสุขเป้นของท่านเถิด" คำนี้ในบางครั้งจะปรากฏเป็นตัวอักษรว่า
"นบีมหะหมัด"
ศาสนายูดาย
ชาวยิวยกย่องให้ชายชื่ออับราฮัม
"บรรพบุรุษ"ของพวกเขาประมาณสี่พันปีมาแล้วอับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าทรงสัญญาที่จะประทานลูกหลานให้แก่เขา พงศ์พันธุ์ของเขากลายเป็นประชาชนชาวอิสราเอล
ต่อมารู้จักกันในนามชาวยิวพวกเขสเชื่อว่าพระเจ้าทรงกระทำการดีให้กับพวกเขาพระองค์ทรง
กระทำการดีแก่ทุกคนในโลก บุคคลสำคัญอีกบุคคลหนึ่งก็คือ โมเสส
เขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ช่วยลูกหลานของอับราฮัมให้หลุดพ้นจากการเป็นทาส ในอียิปต์
และเป็นผู้นำชาวอิสราเอลเดินทางไปยังดินแดนที่พวกเขาจะสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างเสรี
เพื่อทำตามกฎบัญญัติของพระเจ้า โมเสสและกฎ ตามความเชื่อของชาวยิว
พระเจ้าเป็นผู้สร้างกฎหมายของชาวอิสราเอล พวกเขาเชื่อว่าโมเสสสถิตอยู่ที่ภูเขา SINAI
ศาสนาคริสต์

พระเยซูเกิดเมื่อประมาณสองพันปีที่ผ่านมาแล้วในดินแดนปาเลสไตน์ปัจจุบันก็คือประเทศอิสราเอล พระองค์ทรงเติบโต ในเมืองนาซาเร็ธ เป็นช่างไม้ เมื่อพระชนมายุ 30
พระองค์รวบรวม"สาวก"ได้กลุ่มหนึ่งพวกเขาเดินทางไปทั่วประเทศกับพระองค์พระองค์สามารถรักษาโรคภัยด้วยการ
ใช้พระหัตถ์สัมผัสแตะต้องผู้ป่วยและทรงทำการอัศจรรย์อื่นๆอีกมากมายพระองค์ทรงใช้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกเขามาสอน
พวกเขา บางครั้งเราเรียกเรื่องราวเช่นนี้ว่าเรื่องอุปาเปรียบเทียบ
สำหรับชาวคริสต์นั้นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพระเยซูคือสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจาก การวายพระชนม์ของพระองค์ที่เยรูซาเล็ม
เรื่องอุปมาของพระเยซูเกี่ยวกับเหรียญเงินที่หายไปหญิงคนหนึ่งมีเหรียญเงินอยู่สิบอันัวนหนึ่งคน
นี้ทำเหรียญเงินหายไปหนึ่งอันเธออาศัยอยู่ในบ้านที่มีหน้าต่างน้อย
ดังนั้นเธอจึงต้องจุดตะเกียง แล้วก็ค่อยๆ กวาดบ้านเพื่อหาเหรียญที่หายไป เมื่อพบ
เธอตื่นเต้นและดีใจมาก เอจึงไปเล่าให้เพื่อนบ้านทุกคนฟัง "ฉันมีข่าวดีมาบอก
ฉันพบเหรียญที่ทำหายไปแล้ว"พระเยซูทรงบอกแก่ประชาชนที่นั่งฟัง พระองค์อยู่ว่า
พระเจ้าทรงดีพระทัยเหมือนหญิงคนนี้
เมื่อคนที่ทำผิดบาปและมีชีวิตที่ห่างเหินจากพระองค์นั้นได้หันกลับมาใช้ชีวติตามวิถีทางที่
ี่พระองค์ทรงต้องการ
พระเยซู
ไม่มีผู้ใดรู้จริงว่าพระเยซูทรงมีหน้าตาอย่างไรแต่ก็มีคนวาดภาพของพระองค์มากมายนับตั้งแต่สมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ใน
โลกเมื่อสองพันปีที่แล้ว ภาพที่เห็นนี้วาดไว้เมื่อประมาณ 800 ปีมาแล้ว
ศาสนาซิกส์
ชายชื่อนานัก(nanak) เป็นพระอาจารย์(หรือ คุรุ)
ท่านแรกของศาสนาซิกข์เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1469 ณ บ้านชื่อทัลวันดีปัจจุบันอยู่ใน ประเทศปากีสถาน
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ถ้าไม่นับถือศาสนาฮินดูก็จะนับถือศาสนาอิสลาม
นานักเห็นว่าศาสนาทั้งสองต่างมีข้อดีและเขาเชื่อ
ว่ามนุษย์ทุกคนเป็นพี่น้องกันในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า
ผู้คนเรียกเขาว่าคุรุนานัก ("คุรุ"หมายถึง
ครู)หลังสมัยคุรุนานักมีคุรุอีก9ท่านคุรุคนสุด
ท้ายในจำนวนนี้ก็ คุรุ โคบินด์ สิงห์ (Guru Gobind Sinh) ท่านเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มภราดรสัมพันธ์ของชาวซิกข์เป็นที่รู้จักในนาม
ครอบครัวบริสุทธิ์ หรือ กัลสะ
แหล่งที่มา :http://www.chaiwbi.com/
แหล่งที่มา :http://www.chaiwbi.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น