ความหมายและความสำคัญ
กฎหมาย คือบรรดาข้อบังคับของรัฐหรือประเทศที่ใช้บังคับความประพฤติทั้งหลายของบุคคล อันเกี่ยวด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกันถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามก็ต้องมีความผิดและถูกลงโทษ
ความสำคัญ
1. กฎหมายสร้างความเป็นระเบียบเรัยบร้อยแก่สังคมและประเทศชาติ
เมื่อทุกคนรู้และปฎิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องแล้วย่อมไม่เกิดปัญหา และข้อพิพาทระหว่างกันสังคมยอม เป็นระเบียบและมีความสุขอันจะเป็นผลดีต่อประเทศสืบต่อไป
2. การบริหารราชการแผ่นดินและการปกครองบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ประเทศใดประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดก็จะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยดี และมีส่วนทำให้มีการพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างเช่น เมื่อประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของตนที่มีต่อประเทศชาติก็จะสามารถปฎิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างครบถ้วน เช่น หน้าที่ในการป้องกันประเทศ หน้าที่ในการเสียภาษี หน้าที่ในการเป็นทหารรับใช้ชาติ เป็นต้น
3. สังคมจะสงบสุขเมื่อทุกคนปฎิบัติตามกฎหมาย
และรู้ว่าตนมีสิทธิของตนอยู่เพียงไร ไม่ไปล่วงล้ำสิทธิของผู้อื่น ถ้าทุกคนปฎิบัติตามขอบเขตของกฎหมาย ก็จะไม่การทะเลาะวิวาทกัน เช่นทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการพูด การเขียน แต่ต้องปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขต ไม่ดูหมินเหยียดหยามผู้อื่นเพราะอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้
4. กฎหมายสร้างความเท่าเทียมในความเป็นมนุษย์
เพราะกฎหมายจะมีข้อบังคับแก่ทุกคน ดังนั้นไม่ว่า ใครก็ตามที่ประพฤติผิดกฎหมาย หรือถูกผู้อื่นเอาเปรียบ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีฐานะร่ำรวย ฐานะยากจน หรือเป็นผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูงเพียงใดก็ตามไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงกฎหมายได้ ต้องรับโทษตามความผิด
5. กฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ที่สำคัญ เพื่อก่อให้เกิดความยุติธรรม
ในกรณีที่เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น มีการฟ้องร้องคดีกัน เพื่อขอความยุติธรรมจากศาล ศาลก็ต้องตัดสินโดยยึดตัวบทกฎหมายเป็นหลักในการพิจารณาคดี เพื่อให้ทุกคนได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน
การมีส่วนร่วมของประชาชน
การมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นหลักสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน รวมทั้งเป็นตัวบ่งชี้วัดว่าสังคมมีความเป็นประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใด กล่าวคือ ถ้าประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองสูง แสดงว่าสังคมนั้นมีการพัฒนาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยสูงและเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของประชาชน
อีกด้วย เช่น
1. การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
เพื่อลงคะแนนเสียงตามความเห็นชอบ ในการเลือกผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่แทนตนเองในการบริหารท้องถิ่น ประเทศชาติ และกฎหมายเป็นต้น
2.การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
หากเห็นว่ากฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยจะต้องรวบรวมรายชื่อไม่น้อยไปกว่า 10,000 คน
3.รวมตัวจัดตั้งพรรคการเมือง
เพื่อจัดทำกิจกรรมต่างๆทางการเมือง
4.การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการระดับสูง
สามารถกระทำได้โดยผู้มีสิทธฺเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน มีสิทธิเข้าร้อง ขอต่อประธานวุฒิสมาชิก เพื่อให้มีมติถอดกอนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกผู้แทนราษฏร
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงที่มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติส่อไปในทางทุจริต เป็นต้น
5.การออกเสียงประชามติ
เป็นการเปิดโอกาสให้กับประชาชนเช้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆที่มีผลต่อประเทศชาติและประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้มีการเพิ่มอำนาจประชาชน ในการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นกรกระจายอำนาจการตัดสินใจลงสู่ระดับท้องถิ่น โดยประชาชนในพื้นที่ดูแลตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้บริหารท้องถิ่น และที่สำคัญยังเปิดให้ประชาชน ห้าหมื่นคน เข้าเสนอชื่อขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปประไตย
กฎหมาย คือบรรดาข้อบังคับของรัฐหรือประเทศที่ใช้บังคับความประพฤติทั้งหลายของบุคคล อันเกี่ยวด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกันถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามก็ต้องมีความผิดและถูกลงโทษ
ความสำคัญ
1. กฎหมายสร้างความเป็นระเบียบเรัยบร้อยแก่สังคมและประเทศชาติ
เมื่อทุกคนรู้และปฎิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องแล้วย่อมไม่เกิดปัญหา และข้อพิพาทระหว่างกันสังคมยอม เป็นระเบียบและมีความสุขอันจะเป็นผลดีต่อประเทศสืบต่อไป
2. การบริหารราชการแผ่นดินและการปกครองบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ประเทศใดประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดก็จะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยดี และมีส่วนทำให้มีการพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างเช่น เมื่อประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของตนที่มีต่อประเทศชาติก็จะสามารถปฎิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างครบถ้วน เช่น หน้าที่ในการป้องกันประเทศ หน้าที่ในการเสียภาษี หน้าที่ในการเป็นทหารรับใช้ชาติ เป็นต้น
3. สังคมจะสงบสุขเมื่อทุกคนปฎิบัติตามกฎหมาย
และรู้ว่าตนมีสิทธิของตนอยู่เพียงไร ไม่ไปล่วงล้ำสิทธิของผู้อื่น ถ้าทุกคนปฎิบัติตามขอบเขตของกฎหมาย ก็จะไม่การทะเลาะวิวาทกัน เช่นทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการพูด การเขียน แต่ต้องปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขต ไม่ดูหมินเหยียดหยามผู้อื่นเพราะอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้
4. กฎหมายสร้างความเท่าเทียมในความเป็นมนุษย์
เพราะกฎหมายจะมีข้อบังคับแก่ทุกคน ดังนั้นไม่ว่า ใครก็ตามที่ประพฤติผิดกฎหมาย หรือถูกผู้อื่นเอาเปรียบ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีฐานะร่ำรวย ฐานะยากจน หรือเป็นผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูงเพียงใดก็ตามไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงกฎหมายได้ ต้องรับโทษตามความผิด
5. กฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ที่สำคัญ เพื่อก่อให้เกิดความยุติธรรม
ในกรณีที่เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น มีการฟ้องร้องคดีกัน เพื่อขอความยุติธรรมจากศาล ศาลก็ต้องตัดสินโดยยึดตัวบทกฎหมายเป็นหลักในการพิจารณาคดี เพื่อให้ทุกคนได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน
การมีส่วนร่วมของประชาชน
การมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นหลักสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน รวมทั้งเป็นตัวบ่งชี้วัดว่าสังคมมีความเป็นประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใด กล่าวคือ ถ้าประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองสูง แสดงว่าสังคมนั้นมีการพัฒนาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยสูงและเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของประชาชน
อีกด้วย เช่น
1. การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
เพื่อลงคะแนนเสียงตามความเห็นชอบ ในการเลือกผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่แทนตนเองในการบริหารท้องถิ่น ประเทศชาติ และกฎหมายเป็นต้น
2.การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
หากเห็นว่ากฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยจะต้องรวบรวมรายชื่อไม่น้อยไปกว่า 10,000 คน
3.รวมตัวจัดตั้งพรรคการเมือง
เพื่อจัดทำกิจกรรมต่างๆทางการเมือง
4.การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการระดับสูง
สามารถกระทำได้โดยผู้มีสิทธฺเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน มีสิทธิเข้าร้อง ขอต่อประธานวุฒิสมาชิก เพื่อให้มีมติถอดกอนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกผู้แทนราษฏร
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงที่มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติส่อไปในทางทุจริต เป็นต้น
5.การออกเสียงประชามติ
เป็นการเปิดโอกาสให้กับประชาชนเช้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆที่มีผลต่อประเทศชาติและประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้มีการเพิ่มอำนาจประชาชน ในการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นกรกระจายอำนาจการตัดสินใจลงสู่ระดับท้องถิ่น โดยประชาชนในพื้นที่ดูแลตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้บริหารท้องถิ่น และที่สำคัญยังเปิดให้ประชาชน ห้าหมื่นคน เข้าเสนอชื่อขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปประไตย
แหล่งที่มา:
ผศ.วิชัย ภู่โยธิน และคณะ.หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ม.4-ม.6 .พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพ : อักษรเจริญทัศน์
ผศ.วิชัย ภู่โยธิน และคณะ.หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ม.4-ม.6 .พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพ : อักษรเจริญทัศน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น