วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

กฏหมาย

                           

                        กฏหมาย



                  

ความหมายและความสำคัญ
         กฎหมาย  คือบรรดาข้อบังคับของรัฐหรือประเทศที่ใช้บังคับความประพฤติทั้งหลายของบุคคล อันเกี่ยวด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกันถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามก็ต้องมีความผิดและถูกลงโทษ
ความสำคัญ
1. กฎหมายสร้างความเป็นระเบียบเรัยบร้อยแก่สังคมและประเทศชาติ 
เมื่อทุกคนรู้และปฎิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องแล้วย่อมไม่เกิดปัญหา และข้อพิพาทระหว่างกันสังคมยอม       เป็นระเบียบและมีความสุขอันจะเป็นผลดีต่อประเทศสืบต่อไป  
2. การบริหารราชการแผ่นดินและการปกครองบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  
 ประเทศใดประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดก็จะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยดี และมีส่วนทำให้มีการพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็ว  ดังตัวอย่างเช่น  เมื่อประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของตนที่มีต่อประเทศชาติก็จะสามารถปฎิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างครบถ้วน เช่น    หน้าที่ในการป้องกันประเทศ   หน้าที่ในการเสียภาษี   หน้าที่ในการเป็นทหารรับใช้ชาติ    เป็นต้น
3. สังคมจะสงบสุขเมื่อทุกคนปฎิบัติตามกฎหมาย   
และรู้ว่าตนมีสิทธิของตนอยู่เพียงไร  ไม่ไปล่วงล้ำสิทธิของผู้อื่น  ถ้าทุกคนปฎิบัติตามขอบเขตของกฎหมาย  ก็จะไม่การทะเลาะวิวาทกัน  เช่นทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการพูด  การเขียน  แต่ต้องปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขต  ไม่ดูหมินเหยียดหยามผู้อื่นเพราะอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้
4. กฎหมายสร้างความเท่าเทียมในความเป็นมนุษย์   
เพราะกฎหมายจะมีข้อบังคับแก่ทุกคน  ดังนั้นไม่ว่า    ใครก็ตามที่ประพฤติผิดกฎหมาย  หรือถูกผู้อื่นเอาเปรียบ  ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีฐานะร่ำรวย  ฐานะยากจน หรือเป็นผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูงเพียงใดก็ตามไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงกฎหมายได้  ต้องรับโทษตามความผิด   
5. กฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ที่สำคัญ เพื่อก่อให้เกิดความยุติธรรม
ในกรณีที่เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น  มีการฟ้องร้องคดีกัน  เพื่อขอความยุติธรรมจากศาล  ศาลก็ต้องตัดสินโดยยึดตัวบทกฎหมายเป็นหลักในการพิจารณาคดี  เพื่อให้ทุกคนได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน
 การมีส่วนร่วมของประชาชน
การมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นหลักสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน  รวมทั้งเป็นตัวบ่งชี้วัดว่าสังคมมีความเป็นประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใด กล่าวคือ  ถ้าประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองสูง  แสดงว่าสังคมนั้นมีการพัฒนาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยสูงและเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของประชาชน
อีกด้วย  เช่น 
1. การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง    
เพื่อลงคะแนนเสียงตามความเห็นชอบ ในการเลือกผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่แทนตนเองในการบริหารท้องถิ่น ประเทศชาติ และกฎหมายเป็นต้น
2.การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
หากเห็นว่ากฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน  โดยจะต้องรวบรวมรายชื่อไม่น้อยไปกว่า 10,000 คน   
3.รวมตัวจัดตั้งพรรคการเมือง
เพื่อจัดทำกิจกรรมต่างๆทางการเมือง    
4.การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการระดับสูง 
สามารถกระทำได้โดยผู้มีสิทธฺเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน  มีสิทธิเข้าร้อง ขอต่อประธานวุฒิสมาชิก  เพื่อให้มีมติถอดกอนนายกรัฐมนตรี   รัฐมนตรี  สมาชิกผู้แทนราษฏร  
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงที่มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติส่อไปในทางทุจริต  เป็นต้น
5.การออกเสียงประชามติ
 เป็นการเปิดโอกาสให้กับประชาชนเช้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆที่มีผลต่อประเทศชาติและประชาชน 
นอกจากนี้  ยังได้มีการเพิ่มอำนาจประชาชน ในการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นกรกระจายอำนาจการตัดสินใจลงสู่ระดับท้องถิ่น  โดยประชาชนในพื้นที่ดูแลตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้บริหารท้องถิ่น และที่สำคัญยังเปิดให้ประชาชน ห้าหมื่นคน เข้าเสนอชื่อขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ  เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปประไตย


แหล่งที่มา:
ผศ.วิชัย ภู่โยธิน และคณะ.หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ม.4-ม.6 .พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพ : อักษรเจริญทัศน์










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น